ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงเกือบ 30 ดอลลาร์ หลุดระดับ 1,740 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากที่ทรุดตัวลงอย่างหนักวานนี้
ณ เวลา 22.21 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลบ 27.0 ดอลลาร์ หรือ 1.53% สู่ระดับ 1,736.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ราคาทองฟิวเจอร์ปิดตลาดวานนี้ดิ่งลง 37.60 ดอลลาร์ หรือ 2.09% สู่ระดับ 1,763.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ถึงแม้ทองได้รับการมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความมุ่งมั่นในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ก็ได้บดบังปัจจัยบวกดังกล่าว เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทอง เนื่องจากทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะลุระดับ 107 ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 20 ปี โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นกัน
ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.1% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.0%
ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 2 รุนแรงกว่าไตรมาส 1 ซึ่งหดตัว 1.6% และแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 28 ก.ค.
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นในการสกัดเงินเฟ้อ แม้การใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจะชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ก็จะไม่สร้างความเสี่ยงที่รุนแรง
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เรามีเพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็คือการลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยง แต่ผมก็มองว่านี่ไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ โดยความผิดพลาดมากกว่าที่อาจเกิดขึ้นก็คือความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา" นายพาวเวลกล่าว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 14-15 มิ.ย.ในวันนี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 250,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าระดับ 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6%