สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (2 ก.ย.) โดยดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงหนุนแรงซื้อสัญญาทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ นอกจากนี้ การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ช่วยหนุนสัญญาทองคำด้วย อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.3 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 1,722.6 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สัญญาทองคำยังคงร่วงลงเกือบ 1.6% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 21.5 เซนต์ หรือ 1.22% ปิดที่ 17.881 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 12.8 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 818.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 29.80 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 2,026.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ สัญญาทองยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง โดยนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวลงในเดือนส.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 526,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุน หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐร่วงลง 1.0% ในเดือนก.ค. สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.8% ในเดือนมิ.ย.