สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี (22 ก.ย.) โดยนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศระดมกำลังพลเพื่อยกระดับการทำสงครามกับยูเครน
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,681.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.7 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 19.617 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 10 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ 906 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 51.30 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 2,174.80 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากปธน.ปูตินประกาศระดมกำลังพลจำนวน 300,000 นายเพื่อยกระดับการทำสงครามกับยูเครน โดยการประกาศของปธน.ปูตินเมื่อวานนี้ ถือเป็นการเรียกระดมพลทหารรัสเซียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ทางด้านปธน.โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลกลงโทษรัสเซีย จากกรณียกพลบุกโจมตียูเครนต่อเนื่องนานหลายเดือน โดยการเรียกร้องของปธน.ยูเครนมีขึ้นในระหว่างการแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้จำกัดแรงบวกในตลาดทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.64% แตะที่ 111.3520 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ