สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (21 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 19.5 ดอลลาร์ หรือ 1.19% ปิดที่ 1,656.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้นเกือบ 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 37.7 เซนต์ หรือ 2.02% ปิดที่ 19.066 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 18.8 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 933.9 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 74.10 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 2,005.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.79% แตะที่ 111.9900 ในวันศุกร์
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางรายเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในขณะนี้ รวมทั้งวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงในการคุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไป
รายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และบรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ในขณะนี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพ.ย. และจะปรับขึ้น 0.50% ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย