สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (4 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 45.7 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,676.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.354 ดอลลาร์ หรือ 6.97% ปิดที่ 20.784 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 36.4 ดอลลาร์ หรือ 3.94% ปิดที่ 960.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 41.40 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1,839.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนสัญญาทองคำพุ่งขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 1.81% แตะที่ระดับ 110.8770 ในวันศุกร์
ดอลลาร์ร่วงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง แต่ก็ชะลอตัวจากระดับ 315,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ย.
บรรดานักลงทุนคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักราว 62% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 51.5% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขจ้างงาน
นางควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จาก LPL Financial กล่าวว่า รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ได้ชะลอตัวลงเล็กน้อย ซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.