สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (7 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 15.6 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ 1,798 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 58.7 เซนต์ หรือ 2.63% ปิดที่ 22.922 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 16.1 ดอลลาร์ หรือ 1.62% ปิดที่ 1,011.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,854.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.45% แตะที่ 105.1000 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 3.468% เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันในการประชุม 4 ครั้งที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด