สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (13 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดทองคำ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 33.2 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 1,825.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 2565
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 58.7 เซนต์ หรือ 2.51% ปิดที่ 23.99 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 30.9 ดอลลาร์ หรือ 3.07% ปิดที่ 1,038.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 52.60 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,936.70 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%
การที่ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์นั้น ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 1.09% แตะที่ระดับ 103.9840 เมื่อคืนนี้ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ (14 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน