ราคาทองฟิวเจอร์แทบไม่ขยับในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2565
ณ เวลา 20.49 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. บวก 0.1 ดอลลาร์ หรือ 0.01% สู่ระดับ 1,826.10 ดอลลาร์/ออนซ์
การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่อยู่นอกตลาดในช่วงท้ายปี
ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นราว 9% ในไตรมาส 4 โดยดีดตัวขึ้นเกือบ 200 ดอลลาร์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์คาดว่าราคาทองจะดีดตัวขึ้นในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ธนาคารกลางชาติต่างๆ จะยังคงซื้อทองเข้าสู่ทุนสำรอง รวมทั้งคาดการณ์เกี่ยวกับการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นายเยิร์ก คีเนอร์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนของบริษัทสวิส เอเชีย แคปิตอล กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ราคาทองคำอาจพุ่งสูงถึง 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2566 เนื่องจากหลายประเทศอาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเป็นปัจจัยดึงดูดการลงทุนในทองคำ
"นับตั้งแต่ปี 2543 ทองให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 8-10% ต่อปี ซึ่งคุณจะหาไม่ได้จากตลาดพันธบัตรหรือตลาดหุ้น" นายคีเนอร์กล่าว
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงในปี 2566
นายคีเนอร์ระบุว่า จีนยังคงเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ในตลาดทอง
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางซื้อทองเพิ่มขึ้นราว 1.8 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่ทุนสำรอง ส่งผลให้จีนมีทองคำสำรองมูลค่าสะสมราว 1.12 แสนล้านดอลลาร์