สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (11 ม.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,878.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.4 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 23.481 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,084.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,781.10 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงแตะระดับ 3.580% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
เจฟฟ์ ไรท์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Wolfpack Capital กล่าวว่า นักลงทุนจับตาดัชนี CPI ประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยหากดัชนี CPI ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ แต่ในทางกลับกันหากดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดแรงเทขายในสินทรัพย์ทุกประเภทซึ่งรวมถึงสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ และจะผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 6.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 7.1% ในเดือนพ.ย.
ขณะที่จิม วิซคอฟฟ์ นักวิเคราะห์จาก Kitco.com แสดงความเห็นว่า การเปิดประเทศของจีนจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการโลหะมีค่าเช่นทองคำ และโลหะต่าง ๆ ที่ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมซึ่งรวมถึงทองแดง