สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (25 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 7.2 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,942.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. 2565
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 19.2 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 23.941 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20.7 ดอลลาร์ หรือ 1.94% ปิดที่ 1,046.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 47.60 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 1,687.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ฟาว้าด ราซัคซาดา นักวิเคราะห์จากบริษัท City Index กล่าวว่า สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ ซึ่งทำสถิติยาวนานที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. 2565 ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า โดยราซัคซาดาให้แนวรับของสัญญาทองคำที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.27% แตะที่ 101.6440 เมื่อคืนนี้ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2565 ของสหรัฐในวันนี้
ส่วนในวันพรุ่งนี้จะเป็นการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค อีกทั้งมีความครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)