สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (30 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และแรงขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,939.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 11.1 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 23.733 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,020.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 28.30 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,628 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.35% แตะที่ระดับ 102.2850 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
จิม วิคคอฟฟ์ นักวิเคราะห์จาก Kitco.com กล่าวว่า อีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดราคาทองคำอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ คือการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางชั้นนำ 3 แห่งของโลกในสัปดาห์นี้ โดยเฟดจะแถลงผลการประชุมในวันพุธที่ 1 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.ตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.จะเป็นการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างก็คาดการณ์ซ่า ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้