สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (6 ก.พ.) โดยนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,879.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 16.8 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 22.237 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 974.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 39 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 1,579.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงรุนแรงถึง 54.2 ดอลลาร์ หรือ 2.81% สู่ระดับ 1,876.6 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ส่วนตลอดสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาทองคำร่วงลงทั้งสิ้น 2.7%
สำหรับปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักในวันศุกร์นั้น มาจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันอังคารที่ 7 ก.พ. เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพุธที่ 8 ก.พ. เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ คาดว่าปธน.ไบเดนจะแถลงเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและรัสเซียกรณีสงครามยูเครน และการทำสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความตึงเครียดจากเหตุการณ์ล่าสุดที่สหรัฐยิงบอลลูนสอดแนมของจีน ขณะที่จีนอ้างว่าเป็นเรือเหาะสำหรับการสำรวจสภาพอากาศ