ราคาทองฟิวเจอร์ขยับลง แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งปีในวันนี้ (14 เม.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงของสหรัฐหนุนให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้
ณ เวลา 18.54 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลบ 8.20 ดอลลาร์ หรือ -0.40% สู่ระดับ 2,047.10 ดอลลาร์/ออนซ์
"ทองขยับลงในวันนี้ เนื่องจากต้นทุนค่าเสียโอกาสจากการถือครองทองอยู่ในระดับสูง หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้น" นายปีเตอร์ เฟอร์ติก นักวิเคราะห์ของบริษัทควอนทิเททีฟ คอมโมดิตี้ รีเสิร์ชระบุ
ทั้งนี้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือน เนื่องจากนักลงทุนเปลี่ยนมาให้ความสนใจต่อทิศทางการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยเจ้าหน้าที่ ECB หลายรายเอ่ยถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค.
เฟดเริ่มพิจารณาเรื่องการระงับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเดือนมี.ค. ท่ามกลางเหตุการณ์ธนาคารระดับภูมิภาค 2 แห่งของสหรัฐล้มแบบฉับพลัน โดยเหตุการณ์ธนาคารทั้ง 2 แห่งล้มทำให้ทองพุ่งทะลุ 2,000 ดอลลาร์
นางโรนา โอคอนเนลล์ นักวิเคราะห์ของบริษัทสโตนเอ็กซ์ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ล้ม นักลงทุนก็ให้ความสำคัญกับทองในฐานะสินทรัพย์ที่ใช้ในการป้องกันความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการป้องกันความไม่แน่นอนด้านเงินเฟ้อและเศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่ทองถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย
ด้านนายแมตต์ ซิมป์สัน นักวิเคราะห์ตลาดระดับอาวุโสของบริษัทซิตี้ อินเด็กซ์ระบุว่า นักลงทุนรอคอยข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐที่จะเผยแพร่ในวันนี้ โดยทองอาจแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากข้อมูลยอดค้าปลีกอ่อนแอมากพอ