สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (21 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 28.60 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 1,990.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และลดลง 1.3% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 31.50 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 25.058 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 31.10 ดอลลาร์ หรือ 2.81% ปิดที่ 1,138.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 18.70 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,607.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์แสดงความเห็นเช่นเดียวกับประธานเฟดคนอื่น ๆ ในการสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยระบุว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะอยู่เหนือระดับ 5%
นักวิเคราะห์ตลาดคาดว่า มีโอกาสมากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.
การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมี.ค.
ดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัว โดยได้ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 50.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 49.2 ในเดือนมี.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 53.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนมี.ค.