สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (25 เม.ย.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกันวันที่ 2 และกลับมายืนเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง เนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ระดับ 2,004.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 42.90 เซนต์ หรือ 1.69% ปิดที่ 24.882 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.50 ดอลลาร์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,098.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ดิ่งลง 53.50 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 1,480.90 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 3.420% เมื่อคืนนี้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพราะสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 2-3 พ.ค. ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 14.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%