ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงหลุดระดับ 1,990 ดอลลาร์ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 21.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลบ 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.24% สู่ระดับ 1,988.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นอกจากนี้ นักลงทุนลดการถือครองทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ
นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวในวันนี้ว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่คณะทำงานของทำเนียบขาวและสภาคองเกรสกำลังมีความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ
ถ้อยแถลงของนายแมคคาร์ธีในวันนี้ สอดคล้องกับคำกล่าวของเขาวานนี้ที่ว่า มีความเป็นไปได้ที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในปลายสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน ราคาทองได้รับผลกระทบจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งกล่าวสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
"นโยบายที่เหมาะสมคือการเฝ้ารอเพื่อดูว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวมากน้อยเพียงใดจากการดำเนินนโยบายของเรา" นายบอสติกกล่าว
นายบอสติกกล่าวว่า การชะลอตัวของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาถือว่าน่าพึงพอใจ แต่เขายังคงสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป มากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวลง
"เราไม่เคยบอกว่าได้เสร็จสิ้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยเราจะต้องแน่ใจว่าเราได้บรรลุเป้าหมายแล้ว ซึ่งเราจะทำการประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ และทำการตัดสินใจโดยขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับ" นายวิลเลียมส์กล่าว
นายวิลเลียมส์ระบุว่า เขายังมองไม่เห็นเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดี เขาจะนำวิกฤตในภาคธนาคาร และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการขยายตัว การจ้างงานและเงินเฟ้อ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้ประกอบการพิจารณาแนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี้ย