สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (22 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ครั้งล่าสุดระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,977.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 19.90 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 23.861 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,077.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 31.60 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,492.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์แสดงความเห็นล่าสุดว่า "เฟดยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีความเสี่ยงที่จะไม่ปรับตัวลง และตราบใดที่ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องมั่นใจว่าปัญหาเงินเฟ้อจะไม่กลับมาเกิดขึ้น และซ้ำรอยช่วงทศวรรษ 1970"
นักลงทุนจับตาผลการเจรจารอบใหม่เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างปธน.ไบเดนและนายแมคคาร์ธี หลังจากการเจรจาระหว่างคณะทำงานของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในสัปดาห์ที่แล้วไม่มีความคืบหน้า โดยขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 10 วันก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายของการผิดนัดชำระหนี้
รูเพิร์ท โรว์ลิ่ง นักวิเคราะห์จากบริษัท Kinesis Money กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และในครั้งนี้หากสภาคองเกรสและทำเนียบขาวสามารถบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ก็คาดว่าแนวรับในระยะกลางของราคาทองคำน่าจะอยู่ที่ระดับ 1,950 ดอลลาร์