สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (15 มิ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด อย่างไรก็ดี ตลาดทองคำถูกกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,970.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 15.80 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 23.947 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11.90 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 991.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,397.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดิ่งลงแตะระดับ 102.0910 เมื่อคืนนี้ จากระดับก่อนหน้านี้ที่ 103.20 โดยอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวภายหลังการประชุมว่า การที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้เฟดมีเวลาในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ทิศทางนโยบายการเงินในวันข้างหน้านั้น กรรมการเฟดเกือบทั้งหมดต่างก็มีมุมมองที่สอดคล้องกันว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%