สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (16 มิ.ย.) แต่ราคาปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดของวันนับตั้งแต่เดือนพ.ค. โดยนักลงทุนปรับตัวรับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพุธ (14 มิ.ย.) ขณะที่วิตกกับความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดที่บ่งชี้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,971.20 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ลดลง 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 17.90 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 24.126 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 4.60 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 987.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 18.90 ดอลลาร์ หรือเกือบ 1.4% ปิดที่ 1,416.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ภาวะตึงตัวทางการเงินในภาคธนาคารจะเป็นปัจจัยที่เฟดจะจับตาอย่างใกล้ชิดในการกำหนดนโยบายการเงินที่เหมาะสมในอนาคต
นอกจากนี้ นายวอลเลอร์กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อให้เงินเฟ้อลดลง
ด้านนายทอม บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ระบุว่า เขาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% และเตือนว่า การหยุดขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจในวันศุกร์ (16 มิ.ย.) บ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 63.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 60.2 จากระดับ 59.2 ในเดือนพ.ค.