สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (28 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,922.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. 2566
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 6.40 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 23.084 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9.10 ดอลลาร์ หรือ 0.97% ปิดที่ 924.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 47.20 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 1,246.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.41% แตะที่ 102.9122 เมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังปรับตัวลงหลังจากนายพาวเวลกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศโปรตุเกสเมื่อวานนี้ว่า เขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งติดต่อกัน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดแรงงานอยู่ในภาวะตึงตัวมากกว่าคาด และเงินเฟ้อสูงกว่าคาดเช่นกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่า แม้นโยบายที่เฟดใช้มีความเข้มงวด แต่ก็อาจจะยังเข้มงวดไม่เพียงพอ และยังใช้เวลานานไม่เพียงพอ
ถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งติดต่อกัน โดยการประชุมเฟดครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค. และจากนั้นจะมีขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)