สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 11.70 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,915.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 51.20 เซนต์ หรือ 2.19% ปิดที่ 22.89 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 15.30 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 909.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,239.40 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของเฟด พุ่งขึ้นทะลุระดับ 5% แตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4% เมื่อคืนนี้ โดยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลแรงงานดังกล่าว นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากที่พุ่งขึ้น 339,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 3.7% ในเดือนพ.ค.