สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,963.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 63.90 เซนต์ หรือ 2.63% ปิดที่ 24.949 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 26.80 ดอลลาร์ หรือ 2.80% ปิดที่ 983.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,291.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 0.75% แตะระดับ 99.7696 เมื่อคืนนี้ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 0.9% และเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563
ข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐกำลังอ่อนแรงลง หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค. 2567 โดยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากระดับ 18.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว