สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (14 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อชะลอตัวลง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,964.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้นเกือบ 2% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 24.50 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 25.194 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 984.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 25.40 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,266.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว และปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลง
การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ
การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลง และน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.15% แตะที่ 99.9184 ในวันศุกร์แต่ร่วงลงมากกว่า 2% ในสัปดาห์นี้ หลังจากร่วงลงในวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันศุกร์ได้สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของราคาทอง
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 72.6 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2564 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 65.5 จากระดับ 64.4 ในเดือนมิ.ย.
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของเฟดในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25%