สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (17 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 1,956.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 17.60 เซนต์ หรือ 0.70% ปิดที่ 25.018 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 987.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 14.70 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,281.10 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์ (14 ก.ค.) และตลอดสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 2%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 3.821% เมื่อคืนนี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาด เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นาอีม อัสลาม นักวิเคราะห์จากบริษัท Zaye Capital Markets คาดการณ์ว่า สัญญาทองคำมีแนวโน้มอ่อนแรงลงจนกว่านักลงทุนจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 3.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%