สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันอังคาร (18 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 24.40 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,980.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2566
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23.80 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 25.256 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 994.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 35.40 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,316.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1,980 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 3.766% เมื่อคืนนี้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกันเฟดเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.5% ในเดือนมิ.ย. หลังจากร่วงลง 0.5% เช่นกันในเดือนพ.ค. โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวในปีนี้ โดยจะปรับขึ้น 0.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค.นี้