สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) ว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกทั้งหมดซึ่งรวมถึงการซื้อขายนอกตลาด (OTC) และการเคลื่อนย้ายสต็อกทองคำในช่วงครึ่งปีแรกของปีอยู่ที่ 2,460 ตัน เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
รายงานของ WGC ได้เน้นย้ำถึงอานิสงส์ที่ทองคำได้รับจากแรงซื้อของธนาคารกลาง ตลาดการลงทุนที่แข็งแกร่ง และอุปสงค์เครื่องประดับที่ฟื้นตัวขึ้น
รายงานระบุว่า ธนาคารกลางต่าง ๆ ยังคงสะสมทองคำอย่างต่อเนื่องด้วยแรงซื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 387 ตัน
นอกจากนี้ การซื้อเครื่องประดับทั่วโลกยังคงฟื้นตัวแม้เผชิญกับราคาที่สูง โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์จากจีน
นายหวัง ลีซิน ซีอีโอของ WGC ประจำประเทศจีนระบุว่า อุปสงค์ทองคำของจีนมีแนวโน้มจะขยายตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นการบริโภคต่าง ๆ และเหล่านักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งโดยปกติแล้ว ในช่วงครึ่งหลังของปีจะเป็นช่วงที่มีการซื้อเครื่องประดับที่ทำจากทองคำในช่วงเทศกาลวันหยุดมากที่สุด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะกระตุ้นให้อุปสงค์ทองคำเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน การซื้อทองคำของอินเดียในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย.ร่วงลง 7% สู่ระดับ 158.1 ตัน เนื่องจากอุปสงค์ด้านเครื่องประดับและการลงทุนที่ลดลง หลังจากราคาในประเทศพุ่งสูงขึ้นซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 61,845 รูปีต่อ 10 กรัมในไตรมาส 2/2566
WGC คาดการณ์ว่า อุปสงค์ทองคำของอินเดียในปี 2566 อาจปรับตัวลง 10% จากปีที่แล้วสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์ทำให้การซื้อปลีกลดลง