นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราดอกเบี้ย และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งจะทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ดึงดูดแรงซื้อจากนักลงทุน
ข้อมูลจากรีฟินิทีฟ (Refinitiv) ระบุว่า ราคาทองสปอตทะยานขึ้นแตะระดับ 2,072.5 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2563 ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ราคาทองมีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นเหนือระดับดังกล่าว และทำสถิติใหม่
นายบาร์ต เมเลค กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์โลกของบริษัททีดี ซีเคียวริตีส์ (TD Securities) เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า "ผมคาดว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,100 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2566 และคาดว่าในช่วงต้นปี 2567 ราคาทองก็จะยังเคลื่อนไหวที่ระดับดังกล่าว โดยปัจจัยที่ทำให้ผมมีมุมมองบวกดังกล่าวคือความเป็นไปได้ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยผมมั่นใจว่าเฟดจะยุติวงจรนี้ก่อนที่อัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%"
เฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 5.25% - 5.5%
นายเมเลคกล่าวว่า ทองคำทำผลงานโดดเด่นที่สุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ปลอดภัยประเภทอื่น ๆ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากทองคำสามารถต้านทานการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และในอีกด้านหนึ่งนั้น ทองคำมีสถานะเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ขณะที่นักวิเคราะห์รายอื่น ๆ มีมุมมองเป็นบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน โดยคาดว่ามีโอกาสที่ราคาทองจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2,500 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2567 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 26% จากระดับปัจจุบัน
"สำหรับผมแล้ว เป้าหมายราคาทองคำคือ 2,500 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2567 โดยผมคาดว่ากระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเริ่มปรากฏขึ้นในช่วงปลายปีนี้และยาวไปจนถึงต้นปี 2567 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ผมเชื่อว่าในปี 2567 เราจะเห็นราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับดังกล่าวและอาจจะทำนิวไฮที่ระดับสูงกว่านั้น" นายเดวิด นูฮอเซอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทลิเวอร์มอร์ พาร์ตเนอร์ส (Livermore Partners) กล่าว ทางด้านนายแรนดี้ สมอลวูด ซีอีโอของบริษัทวีตัน พรีเซียส เมทัลส์ (Wheaton Precious Metals) กล่าวว่า "ผมมั่นใจอย่างมากว่าราคาทองจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ภายในระยะเวลา 2 ปี ผมเชื่อว่าทองคำจะได้ประโยชน์จากแรงซื้อท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีนและสหรัฐที่ส่งสัญญาณอ่อนแอลงในขณะนี้
นอกจากนี้ นายเฮง กูน โฮว์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดของธนาคารยูโอบีคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ แต่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยได้ปัจจัยสนับสนุนหลักจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยุติวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ย และสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนแอลง
นายเฮงยังกล่าวด้วยว่า การที่ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำ และความต้องการทองคำในกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะในจีนและอินเดีย จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำด้วยเช่นกัน