ราคาทองคำของจีนอยู่ในระดับสูงกว่าราคาทองคำที่มีการซื้อขายในตลาดลอนดอน และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เทรดเดอร์ของจีนระบุว่าเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลจีนควบคุมการนำเข้าทองคำ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองสปอตในตลาดเซี่ยงไฮ้ของจีนอยู่ในระดับสูงกว่าราคาทองในตลาดลอนดอนอยู่ประมาณ 37 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ซึ่งเป็นส่วนต่างสูงที่สุดในรอบเกือบ 5 เดือน โดยส่วนต่างดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิ.ย. แม้ว่าอุปสงค์ทองคำของกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนปรับตัวลดลงก็ตาม
เทรดเดอร์และกลุ่มผู้นำเข้าของจีนเปิดเผยว่า การที่รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการควบคุมการนำเข้าทองคำถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ส่วนต่างของราคาทองคำจีนและราคาทองคำในตลาดลอนดอนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับที่สภาทองคำโลก (WGC) ระบุในรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ส่วนต่างดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปทานทองคำในจีนอยู่ในภาวะตึงตัว
แหล่งข่าวเปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่า รัฐบาลจีนได้ปรับลดหรือยุติการให้โควตาการนำเข้าทองคำแก่ธนาคารพาณิชย์จีนบางแห่ง ซึ่งส่งผลให้ปริมาณทองคำหมุนเวียนภายในประเทศปรับตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนเหตุผลของการที่จีนควบคุมการนำเข้าทองคำนั้น ยังไม่เป็นที่ชัดเจน
ที่ผ่านมานั้น จีนแข่งขันกับอินเดียเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ของโลก ด้วยเหตุนี้ ทิศทางของอุปสงค์และอุปทานจึงมีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก แต่ในระยะหลังนี้ อุปสงค์ทองคำในจีนอ่อนแรงลงเนื่องจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ทำให้บรรดาผู้บริโภคของจีนลดการซื้อเครื่องประดับทองคำหรือลงทุนในทองคำ ซึ่งทำให้การซื้อเครื่องประดับทองคำและการลงทุนในทองคำของจีนยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ธนาคารกลางจีนจะให้โควตาแก่สถาบันการเงินในการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ แต่ธนาคารกลางจีนไม่เคยเปิดเผยว่ามีการอนุมัติการนำเข้าทองคำในปริมาณเท่าใด นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ ต่อรายงานข่าวดังกล่าวของบลูมเบิร์ก
ด้านนายนิคอส คาวาลิส กรรมการผู้จัดการบริษัทเมทัล โฟกัสคาดการณ์ว่า อุปสงค์ทองคำในจีนจะค่อนข้างซบเซา โดยจะไม่ถึงกับดีมากหรือแย่มาก แต่สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคืออุปทานทองคำในจีนจะอยู่ในภาวะตึงตัว"