สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,920 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) และปิดในแดนลบติดต่อกัน 9 วันทำการ ซึ่งเป็นสถิติการปิดลบที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2560 โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.10 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,915.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.80% ปิดที่ 22.715 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 895.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,220.50 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.31% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2551 โดยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ค. ซึ่งระบุว่า เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไป
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 11,000 ราย สู่ระดับ 239,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และอาจทำให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไปอีกเป็นเวลานานขึ้น