สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (23 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.10 ดอลลาร์ หรือ 1.15% ปิดที่ 1,948.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 94.20 เซนต์ หรือ 4.02% ปิดที่ 24.392 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 12.70 ดอลลาร์ หรือ 1.37% ปิดที่ 938.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 16.60 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,281.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ระดับ 103.4197 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 4.227% เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนคาดหวังว่า นายพาวเวลจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันศุกร์นี้
บาร์ต เมเลค นักวิเคราะห์จากบริษัท TD Securities คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,100 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2566 ไปจนถึงต้นปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากความเป็นไปได้ที่ว่า เฟดจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่ เดวิด นูฮอเซอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Livermore Partners คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2567 เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเริ่มปรากฏขึ้นในช่วงปลายปีนี้และยาวไปจนถึงต้นปี 2567 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจครั้งล่าสุดของสำนักข่าวบลูมเบิร์กซึ่งระบุว่า นักลงทุนซึ่งรวมถึงผู้จัดการกองทุนความมั่งคั่งและเฮดจ์ฟันด์ ต่างก็มองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจ และคาดว่าจะเพิ่มการลงทุนทองคำต่อไปในอีก 12 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากคาดว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก และจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีหน้า