สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1,860 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (9 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 19.10 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 1,864.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 20.10 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 21.924 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 888.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 31.20 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 1131.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) ส่งผลให้ชาวอิสราเอลถูกสังหารกว่า 700 ราย ขณะที่อิสราเอลตอบโต้กลุ่มฮามาสด้วยการส่งเครื่องบินรบถล่มฉนวนกาซา ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 500 ราย
นายโยอาฟ กาลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์ โดยจะตัดขาดการส่งกระแสไฟฟ้า พลังงาน อาหารและน้ำจากอิสราเอลเข้าไปในดินแดนดังกล่าว
สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นายลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวในการประชุมที่จัดโดยสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติ (National Association for Business Economics) ของสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง เฟดก็อาจจะมีความจำเป็นน้อยลงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ในวันพุธนี้ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ในวันพฤหัสบดี เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด