ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 1,930 ดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 21.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 11.20 ดอลลาร์ หรือ 0.58% สู่ระดับ 1,930.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาด รวมทั้งตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพฤหัสบดีนี้
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยการกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.
ทั้งนี้ กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นต่อสาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยคาดว่ากองทัพอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินต่อฉนวนกาซาในไม่ช้า
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
"เรากำลังจับตาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งดังกล่าว แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าเหตุการณ์นี้จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ โดยจะขึ้นอยู่กับว่าความขัดแย้งจะลุกลามออกนอกอิสราเอลและกาซาหรือไม่ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เราต้องการหลีกเลี่ยง" นางเยลเลนกล่าว