สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1,980 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (19 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,980.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.80 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 23.031 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 898.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15.50 ดอลลาร์ หรือ 1.36% ปิดที่ 1118.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.29% แตะที่ระดับ 106.2469 เมื่อคืนนี้ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังทำให้นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยล่าสุดนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวกับนายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษซึ่งเดินทางเยือนอิสราเอลเมื่อวานนี้ว่า สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะไม่สิ้นสุดลงในเวลาอันสั้น
นายโจเซฟ ไซรา นักเศรษฐศาสตร์อิสราเอล เตือนว่า เศรษฐกิจอิสราเอลจะเผชิญภาวะถดถอยในไม่ช้า โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส
"การท่องเที่ยวได้หยุดชะงักลง และชาวอิสราเอลไม่ได้ออกไปซื้อสินค้าหรือกินอาหารนอกบ้าน" นายไซรากล่าว
นอกจากนี้ นายไซราระบุว่า การที่กองทัพอิสราเอลเรียกระดมพลมากกว่า 360,000 นาย ได้ทำให้ชาวอิสราเอลจำนวนมากต้องลาหยุดจากงานเพื่อมารับใช้ชาติ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตลดลง และทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวลง