สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (24 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.70 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,986.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.40 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 23.116 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 13.10 ดอลลาร์ หรือ 1.45% ปิดที่ 891.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11.70 ดอลลาร์ หรือ 1.02% ปิดที่ 1127.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.69% แตะที่ระดับ 106.2679 เมื่อคืนนี้ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากรายงานของเอสแอนด์พี โกลบอลซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 50.2 ในเดือนก.ย. โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. โดยในวันพฤหัสบดีนี้ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ซึ่งจะเป็นตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1
ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)