ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงหลุดระดับ 1,990 ดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 20.15 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 6.10 ดอลลาร์ หรือ 0.31% สู่ระดับ 1,988.80 ดอลลาร์/ออนซ์
นอกจากนี้ ราคาทองถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.7% หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
การขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค, การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงคลัง, การส่งออก, การลงทุนของภาคเอกชน และการใช้จ่ายของรัฐบาล
ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 4% ในไตรมาส 3 หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% ในไตรมาส 2 ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนพุ่งขึ้น 8.4% และการใช้จ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 4.6%
ในการกล่าวถ้อยแถลงครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และย้ำว่าตลาดแรงงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องชะลอตัวลงเพื่อให้เฟดบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ
"เงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับเงินเฟ้อในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับการสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมายของเรา"
"หนทางข้างหน้าอาจจะไม่ราบรื่น และต้องใช้เวลานาน ผมและเจ้าหน้าเฟดเห็นพ้องกันต่อพันธกรณีในการควบคุมเงินเฟ้อให้ลดลงอย่างยั่งยืนสู่ระดับ 2% ซึ่งการที่เฟดจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นที่เศรษฐกิจจะต้องมีการขยายตัวต่ำกว่าแนวโน้ม และตลาดแรงงานจะต้องชะลอตัวลง" นายพาวเวลกล่าวในการประชุมที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York)