สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (24 พ.ย.) เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนแรงซื้อสัญญาทองคำ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้นมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10.20 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 2,003.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 65.30 เซนต์ หรือ 2.76% ปิดที่ 24.341 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 6.20 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 936.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.10 ดอลลาร์ หรือ 2.08% ปิดที่ 1,084.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากนักวิเคราะห์ตลาดส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนธ.ค.
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.38% สู่ระดับ 103.375
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่เปิดเผยในวันศุกร์นั้น เอสแอนด์พี โกลบอลรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ทรงตัวที่ระดับ 50.7 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ
ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของคำสั่งซื้อใหม่ หลังจากหดตัวติดต่อกัน 3 เดือน แต่ถูกกดดันจากการจ้างงานที่ลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 50.0 ในเดือนต.ค. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ต่ำกว่าระดับ 50.0 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 50.6 ในเดือนต.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50.0 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว