สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (5 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ เมื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 2,036.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 36.10 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 24.546 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 2.00% ปิดที่ 906.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 40.40 ดอลลาร์ หรือ 4.12% ปิดที่ 940.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.33% แตะที่ระดับ 104.0498 เมื่อคืนนี้ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากข้อมูลภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.7 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 51.8 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52 ดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
สถาบัน ISM ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย.เนื่องจากกิจกรรมทางธุรกิจเพิ่มขึ้น แม้ว่าคำสั่งซื้อใหม่จะยังคงทรงตัวก็ตาม โดยดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนพ.ย.