สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (27 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 23.30 ดอลลาร์ หรือ 1.13% ปิดที่ 2,093.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 24.50 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 24.641 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 19 ดอลลาร์ หรือ 1.91% ปิดที่ 1,014.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 31.70 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 1,157.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.47% แตะที่ระดับ 100.986 เมื่อคืนนี้
ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ออกมาต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ย. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 73.9% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. 2567
ทางด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน อดีตประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวในรายการ "Squawk Box" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวานนี้ว่า เขาคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า เนื่องจากเฟดต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย และเฟดต้องการหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากเกินไป ทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหากเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง