สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (24 ม.ค.) หลังมีรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 9.80 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 2,016 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 42.70 เซนต์ หรือ 1.90% ปิดที่ 22.889 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 914.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 26.90 ดอลลาร์ หรือ 2.84% ปิดที่ 973.70 ดอลลาร์/ออนซ์
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน จากระดับ 47.9 ในเดือนธ.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 51.4 ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.157% เมื่อคืนนี้ หลังดัชนี PMI ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด
ผลการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ และมีโอกาสเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.มากกว่าเดือนพ.ค.