สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (25 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงในไตรมาส 4/2566
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 2,017.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 3.80 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 22.927 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20.40 ดอลลาร์ หรือ 2.23% ปิดที่ 894.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 30.80 ดอลลาร์ หรือ 3.16% ปิดที่ 942.90 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุอายุ 10 ปีปรับตัวลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำไตรมาส 4/2566 ปรับตัวขึ้นเพียง 2.7% ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 5.9% ในไตรมาส 4/2565 ส่วนดัชนี Core PCE ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้นเพียง 3.2% ชะลอตัวลงจากระดับ 5.1% ในไตรมาส 4/2565
บาร์ต เมเลค นักวิเคราะห์จากบริษัท TD Securities แม้ในรายงานดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 3.3% ในไตรมาส 4/2566 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0% แต่การที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงในไตรมาสดังกล่าวนั้นทำให้ตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 25,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ราย
นักลงทุนรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ เวลาประมาณ 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)