สภาทองคำโลก (WGC) คาดการณ์ว่า อุปสงค์ทองคำในประเทศอินเดียจะซบเซาลงในไตรมาส 1/2567 เนื่องจากยอดขายเครื่องประดับชะลอตัวลง แต่คาดว่าอุปสงค์ตลอดทั้งปี 2567 จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคปรับตัวรับราคาทองคำที่สูงขึ้น
รายงานของ WGC ซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) ระบุว่า การซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นของอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่ใช้ทองคำมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกนั้น จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ และคาดว่าความต้องการในการนำเข้าทองคำที่เพิ่มขึ้นจะทำให้อินเดียขาดดุลการค้ามากขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินรูปี
โซมาซุนดาราม พีอาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการดำเนินงานในอินเดียของ WGC เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อุปสงค์ทองคำในอินเดียอยู่ในที่ระดับเพียง 700-800 ตันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าอุปสงค์จะพุ่งขึ้นทะลุกรอบดังกล่าว และมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 800-900 ตันในปีนี้
ส่วนในปี 2566 ที่ผ่านมา อุปสงค์ทองคำในอินเดียลดลง 3% จากปี 2565 สู่ระดับ 747.5 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากราคาที่พุ่งขึ้นร้อนแรงจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้นได้ส่งผลให้ความต้องการเครื่องประดับชะลอตัวลง
ทั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เปรู และกานา เป็นผู้จัดหาทองคำรายให้กับอินเดีย
สำหรับแนวโน้มทั่วโลกนั้น WGC คาดการณ์ว่า ความต้องการทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในปี 2567 เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศจะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ WGC ยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรอง ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ
WGC ระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มในระบบทุนสำรองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเข้าซื้อต่อเนื่องในปี 2566 เราคาดว่า ธนาคารกลางจะเดินหน้าซื้อทองคำต่อไปในปี 2567 โดยผลสำรวจล่าสุดของ WGC พบว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรองอีก 24% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า