สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลงในการซื้อขายเมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 2,042.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 12.10 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 22.636 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 11.90 ดอลลาร์ หรือ 1.33% ปิดที่ 885.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 20.30 ดอลลาร์ หรือ -2.13% ปิดที่ 931.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันนี้ (29 ก.พ.) เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนธ.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. จากระดับ 0.2% ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.9% ในเดือนธ.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. จากระดับ 0.2% ในเดือนธ.ค.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2566 บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.2% ในไตรมาสดังกล่าว แต่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 3.3%
ส่วนนางซูซาน คอลลินส์ ประธานธนาคารเฟดสาขาบอสตันกล่าวในวันพุธ (28 ก.พ.) ว่า เฟดควรใช้เวลาในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ เพื่อให้แน่ใจว่า เฟดจะสามารถรับประกันด้านเสถียรภาพราคาและอัตราการจ้างงานสูงสุด
นอกจากนี้ นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า มีโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ โดยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยออกมา