บรรดาโรงถลุงแร่ทองแดงของจีนประกาศว่าจะควบคุมกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองต่อภาวะตึงตัวของตลาดหัวแร่ทองแดง (copper concentrate) ทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการดำเนินการลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ แม้ยังไม่ได้ผนึกกำลังดำเนินการลดการผลิตร่วมกันแบบเป็นกลุ่มก้อนก็ตาม
ราคาทองแดงในตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าลดช่วงบวก หลังจากแถลงการณ์ของอุตสาหกรรมโรงถลุงแร่งทองแดงจีน หลังพุ่งขึ้น 3.1% ในวันพุธ (13 มี.ค.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าอุปทานทองแดงโลกจะปรับตัวลดลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โรงถลุงแร่ของจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคทองแดงบริสุทธิ์รายใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ หลังจากค่าธรรมเนียมการบำบัดและการกลั่นทองแดงนั้นลดลงจนเหลือเลขหลักเดียว ซึ่งโรงถลุงแร่เหล่านี้จะได้รับเป็นค่าจ้างในการเปลี่ยนหัวแร่ทองแดงให้กลายเป็นโลหะ ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องหารือกันถึงแนวทางการจัดการการผลิตทองแดง เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ต้องพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้า
"การพุ่งขึ้นของราคาทองแดงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และอาจมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีก" หลี่ เสวี่ยจื้อ หัวหน้าสถาบันวิจัยเคออส เทอร์นารี่ (Chaos Ternary) ระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า ค่าธรรมเนียมการดำเนินการที่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดการคว่ำบาตรจากโรงถลุงแร่
ทั้งนี้ ทองแดงยังได้ประโยชน์จากความเป็นไปได้ในการยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยผู้ค้าตลาดสวอปคาดการณ์ว่าเฟดจะเปลี่ยนไปสู่การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย. โดยราคาทองแดงที่พุ่งขึ้นดังกล่าว ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.พ. ส่งผลให้การซื้อขายทองแดงในกรอบแคบ ๆ เป็นระยะเวลาหลายเดือนหยุดชะงักลง