สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (25 มี.ค.) โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 16.40 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 2176.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 4.80 เซนต์ หรือ หรือ 0.19% ปิดที่ 24.891 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.4 ดอลลาร์ หรือ 1.15% ปิดที่ 908.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 15 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,013.30 ดอลลาร์/ออนซ์
คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 20 มี.ค.ตามคาด ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นั้น เจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจำนวน 3 ครั้งในปี 2567
นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ยืนยันในระหว่างการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันดังกล่าวว่า "ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ออกมาสูงเกินคาดเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ได้ทำให้เฟดเปลี่ยนแปลงมุมมองที่ว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างค่อยเป็นค่อยไป และเราเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ในระดับสูงสุดแล้วสำหรับวงจรนี้ โดยหากเศรษฐกิจมีพัฒนาการตามที่เราคาดการณ์ไว้เป็นวงกว้าง ก็น่าจะเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้"
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% เช่นกันในเดือนม.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนม.ค.