สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (26 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งความหวังว่าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 2,177.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 26.8 เซนต์ หรือ 1.08% ปิดที่ 24.623 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 920.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 10.20 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1003.10 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.241% เมื่อคืนนี้ โดยการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ รวมทั้งอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากธนาคารกลางทั่วโลก และปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ในรัสเซียและตะวันออกกลาง ซึ่งจะหนุนแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% เช่นกันในเดือนม.ค.
นอกจากนี้คาดว่า ดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนม.ค.