สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (10 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 14 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 2,348.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 6.8 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 28.052 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 976.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 27.70 ดอลลาร์ หรือ 2.55% ปิดที่ 1,058.40 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4% และสูงกว่าเดือนก.พ.ที่ปรับตัวขึ้น 3.2%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ที่สูงเกินคาดส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.5% ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
นอกจากนี้ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 19-20 มี.ค.ยังระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจจะไม่ชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในระยะเวลาอันใกล้ และแสดงความเห็นว่าเฟดอาจจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนได้เลื่อนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปเป็นเดือนก.ย. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 16.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับ 56% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI และให้น้ำหนัก 46.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 33.7% ก่อนหน้านี้