ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ (12 เม.ย.) และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สี่ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนช่วยเพิ่มความต้องการซื้อทองคำ
ณ เวลา 19.23 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. บวก 37.50 ดอลลาร์ หรือ +1.58% สู่ระดับ 2,410.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นายริคาร์โด อีวานเจลิสตา นักวิเคราะห์อาวุโสของ ActivTrades กล่าวว่า ยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก ท่ามกลางแรงซื้อของธนาคารกลางและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ได้ทวีความรุนแรงขึ้น
นายอีวานเจลิสตาเสริมว่า ข้อกังขาเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนยังได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และยังเป็นตัวเร่งให้ตลาดมีแนวโน้มที่จะแสวงหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย
อนึ่ง ยอดส่งออกของจีนในเดือนมี.ค.หดตัวลงรุนแรงเกินคาดที่ -7.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และหนักกว่าที่ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะลดลง -2.3% ขณะที่ยอดนำเข้าก็ปรับตัวลดลงอย่างไม่คาดคิดเช่นกัน
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวของอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านได้ส่งสัญญาณกับสหรัฐว่า จะตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลต่อสถานทูตอิหร่านในซีเรียในลักษณะที่มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ขัดแย้งบานปลาย
ด้านธนาคารกลางเวียดนามกล่าวว่าจะเพิ่มสต็อกทองคำแท่งเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด ขณะที่ธนาคารกลางจีนก็ได้เพิ่มปริมาณทองคำสำรองในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐเมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในเดือนมี.ค.ออกมาสูงเกินคาด