สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (16 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 24.80 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 2,407.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 34.1 เซนต์ หรือ 1.19% ปิดที่ 28.376 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 975.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 12.70 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 1,031.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น หลังจากพลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (IDF) ส่งสัญญาณว่า อิสราเอลจะทำการตอบโต้อิหร่าน หลังจากอิหร่านใช้โดรนและขีปนาวุธหลายร้อยตัวโจมตีอิสราเอลเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 เม.ย.)
ทั้งนี้ แม้ว่าการโจมตีในวันดังกล่าวจะไม่มีผู้เสียชีวิตและสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย เนื่องจากไอออนโดม (Iron Dome) ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสามารถยิงสกัดขีปนาวุธและโดรนของอิหร่านได้ แต่เหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าความขัดแย้งที่เคยจำกัดอยู่ในฉนวนกาซาจะลุกลามเป็นวงกว้าง และอาจนำไปสู่สงครามเต็มรูปแบบระหว่างอิสราเอลและอิหร่านซึ่งเป็นศัตรูกันมานาน
ทางด้านอิหร่านประกาศว่าจะไม่ยอมอยู่เฉยหากอิสราเอลโจมตีอิหร่าน โดยอิหร่านจะตอบโต้ด้วยยุทธวิธีที่รวดเร็วกว่าและรุนแรงกว่า
ทีมนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งนำโดยอาคาช โดชี คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มทะยานขึ้นแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในอีก 6-18 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า ทองคำเข้าสู่ภาวะตลาดกระทิงแล้วในขณะนี้ พร้อมกับปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำขึ้นสู่ระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปี 2567 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์/ออนซ์