สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (15 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 35 ดอลลาร์ หรือ 1.48% ปิดที่ 2,394.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.027 ดอลลาร์ หรือ 3.58% ปิดที่ 29.729 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 25.50 ดอลลาร์ หรือ 2.44% ปิดที่ 1,070.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 32.60 ดอลลาร์ หรือ 3.32% ปิดที่ 1,015.00 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.6% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ที่ออกมาต่ำกว่าคาดเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงในไตรมาส 2 ปีนี้ และทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
นอกจากนี้ ดัชนี CPI ที่ต่ำกว่าคาดยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย