อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. แม้ว่า Dot Plot บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 56.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 38.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนธ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 32.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
การคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4% จากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพ.ค. หรือปรับตัวขึ้น 0.0% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.1% จากระดับ 0.3% ในเดือนเม.ย.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.6% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.3% ในเดือนเม.ย.